Thursday, 23 March 2023

รีวิวหนัง “Avatar: The Way of Water” วารีคู่กับเจมส์เป็น 3 ชั่วโมง เลอค่าที่คอยมา 13 ปี

และแล้วก็มาถึงคิวของหนังที่มีคนรักแล้วก็คอหนังคงจะตั้งตาคอยกันอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ การกลับมาสืบต่อการเดินทางของจักรวาลแพนดอร่าอีกที กับปรมาจารย์นักสร้างหนังชั้นครูกลับมาเอง เนรมิตสร้างออกมาเป็นภาคต่ออันแสนเลอค่า ” Avatar : The Way of Water – อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ “ งานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ล้ำลึกที่กลับมาอยู่ในมือของคนที่คู่ควร ด้วยเหตุนี้นี่ก็เลยกลายเป็นที่คุ้มค่ากับการคอยมา 13 ปีจริงๆ

Avatar : The Way of Water เล่าเรื่องราวต่อจากภาคต้นฉบับ กับอีกหลายปีต่อมา เจค ซัลลี ได้ก่อร่างสร้างครอบครัวของเขาเองอย่างสงบสุขบนดาวแพนดอร่า แต่ปรากฏว่าครอบครัวของซัลลี จำต้องมาเผชิญหน้าอีกทีกับปัญหาที่ย้อนกลับตามมาประชิด เมื่อพวกเขามุ่งหน้ากำจัดปัญหาที่จะเป็นภัยคุกคามเพื่อให้อยู่รอด แล้วก็ปกป้องกันและกันให้ปลอดภัยจากอันตราย หลังจากโศกนาฎกรรมที่พวกเขาจำต้องก้าวผ่านมันมาด้วยกัน

เพราะว่าชื่อของ “เจมส์ คาเมรอน” จะออกผลงานมานานๆครั้ง แต่ว่าออกมาทีไรก็ต้องยกระดับแล้วก็มาตรฐานให้กับวงการหนังทุกหน แล้วก็แน่นอนว่าในคราวนี้ก็ด้วยเหมือนกัน เจมส์ คาเมรอน ยังคงรู้จักวิธีแล้วก็จังหวะสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานได้ระดับเทพสร้าง เขาทราบว่าต้องทำอะไร แล้วก็จำต้องทำแบบไหนที่ผู้ชมต้องการบริโภค อีกทั้งงานในทุกๆรายละเอียดที่เขาสร้างสรรค์ออกมานั้น ก็ไม่สามารถจะสบประมาทอะไรอะไรก็แล้วแต่ได้เลย เพราะเหตุว่าทั้งหมดทุกอย่างเต็มไปด้วยความปราณีต

Avatar The Way of Water

บางครั้งก็อาจจะกล่าวได้เลยว่า Avatar : The Way of Water เป็นสุดยอดภาพยนตร์ฮอลลิวูดอีกเรื่องในรอบทศวรรษเลยทีเดียว

เพราะเหตุว่าจำไม่ได้แล้วว่าเคยมีประสบการณ์นั่งดูหนังแล้วรู้สึกว้าวแล้วก็ตระการอะไรแบบนี้ นานสักเพียงใดแล้ว หนังเรื่องนี้สามารถเรียกย้อนบรรยากาศพวกนั้นกลับมาได้อย่างอิ่มเอม คือเพียงแค่ตีตั๋วมานั่งดูงานสร้างของหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าตั๋วไปเรียบร้อยแล้ว

Avatar:The Way of Water เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษอันแพรวพราว ด้วยฝีมือของนักสร้างสรรค์ที่ถนัด แล้วก็ชำนาญกับงานด้านนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น ทำให้ช่วงเวลา 3 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ได้อยากลุกไปไหน อาการปวดฉี่ไม่เกินระหว่างทาง อาจเพราะว่ากลัวจะพลาดช็อตเด็ดๆ แล้วก็สวยสดงดงาม ของหนังเรื่องนี้ ที่อัดแน่นเต็มจอ ทั้ง 190 นาทีของหนังก็ว่าได้

แน่นอนว่าเทคนิคงานสร้าง ของหนังเรื่องนี้ น่าจะต้องให้คะแนน 100 เต็ม 10 อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ทุกส่วนประกอบงานสร้าง ของหนังเรื่องนี้ คือความดีงามที่มาอุดรอยรั่วต่างๆของหนังได้อย่างสมูบรณ์แบบ สิ่งที่คุณเห็นในตัวอย่างหนังนั้น เป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆเท่านั้น เพราะเหตุว่าเนื้อในนั้นจะพาผู้ชมออกไปสำรวจอีกมุมของดาวแพนดอร่า อีกทั้งน่าละลานตา แล้วก็ตื่นใจไปพร้อมๆกัน จำต้องลุกขึ้นตบมือ ให้กับทีมดีไซน์เทคนิคพิเศษให้กับหนังเรื่องนี้ เพราะเหตุว่า นี่คือหนังที่ทำให้เราน้ำตาปริ่มได้ กระทั่งฟองออกอากาศในน้ำลอยผ่านหน้าไปบนจอ

แต่เดี๋ยวจะหาว่า อวยหนังAvatar:The Way of Water เกินความจำเป็น เพราะเหตุว่าจริงๆหนังก็ยังมีช่องโหว่ แล้วก็รอยรั่ว ปนเปอยู่บ้าง เช่นเดียวกัน โดยยิ่งไปกว่านั้น พล็อตเรื่อง แล้วก็บทหนังที่ค่อนจะเพลย์เซฟไปสักหน่อย มาด้วยพล็อตหนังแบบง่ายๆธรรมดาๆ ที่ผู้ชมคงจะเดาได้อย่างไม่ยากเย็น ถึงกระนั้นเส้นเรื่องของหนัง ก็แข็งแรง แล้วก็หนักแน่นดี ตลอดทั้งเรื่อง แล้วก็เมื่อมาได้ความอลังการของงานสร้างนี่แหละ ที่มาช่วยอุดปะรอยรั่วตรงนี้ให้เรียบเนียน แล้วก็มาข้ามไปได้อย่างอรรถรสเลยทีเดียว

โดยจะว่าไปแล้วAvatar: The Way of Water คงจะถูกปรับสัดส่วน ให้เปลี่ยนมาเป็นหนังที่มีส่วนผสมของความเป็นหนังครอบครัว แล้วก็หนังวัยรุ่น สไตล์ coming of age มากขึ้นเรื่อยๆหน่อยๆ เพราะเหตุว่าด้วยนักแสดงที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเดินเรื่องด้วยการผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ ที่น่าละลานตา ทำให้ผู้ชมได้มีโอกาสสัมผัสได้แล้วว่า ดาวแพนดอร่าดวงนี้ค่อนข้างจะกว้างใหญ่ แล้วก็นี่ก็คือ เป็นเพียงแต่ส่วนเดียว ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนดาวดวงนี้เท่านั้น

ทางด้านการแสดง ก็จำต้องบอกว่าไว้ใจได้ แม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้คลุกคลีกับคาแรกเตอร์ที่เป็นมนุษย์เยอะมากสักเท่าไหร่ ในเรื่องนี้ แต่พวกเขา ทุกนักแสดง ก็คือดาราธรรมดาๆที่มาแสดงบทบาทนั่นแหละ พวกเขาถ่ายทอดออกมาได้ดี จนบางครั้งก็หลงลืมไป ถึงว่าเป็นอวตารตัวจริง “แซม เวิร์ธธิงตัน”, “โซอี ซัลดานา” หรือ “สตีเฟน แลงก์” จัดว่าทำหน้าที่ของพวกเขาได้อย่างแจ่มแจ้งดีอีกที

ตอนที่ ทีมดาราสมทบ ที่เพิ่งเข้ามาเสริมในภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็น “เคต วินสเลต” หรือ “คลิฟฟ์ เคอร์ติส” ถือว่าเป็นการส่งเสริมส่วนประกอบการแสดงที่ค่อนข้างจะน่าประทับใจ แล้วก็ที่ไม่พูดถึงมิได้ ก็คือเหล่าดาราเจนใหม่ “เจมี่ แฟลตเตอร์ส”, “บริเตียน ดอลตัน”, “แจ็ค แชมป์เปียน” หรือ “เบลีย์ บาส” นับว่าเป็นส่วนเสริมที่มาช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาให้กับหนังภาคนี้ ให้สมบูรณ์เพิ่มขึ้นได้ดีด้วย

อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ

ยิ่งไปกว่านี้ เชื่อว่าผู้ชมคงจะสัมผัสได้ถึงสารข้อความ อะไรบางอย่างที่ เจมส์ คาเมรอน พยายามสื่อสารออกมาในหนังเรื่องนี้

Avatar:The Way of Water ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิตตามมาวิถีดั้งเดิมของชนเผ่า หรือจะเป็นสะท้อนปัญหา การรุกรานระบบนิเวศ ของเผ่าพันธุ์สัตว์น้ำ ที่หนังนี้ได้หยิบใส่ประเด็นพวกนี้ลงไปเป็นข้อความที่ค่อนข้างจะชัดเจน แล้วก็อย่างน้อยๆ ก็ยังคงแสดงให้เห็นอีกเหมือนเคยว่า มนุษย์ ในสายตาจากสิ่งมีชีวิตอื่น ก็ถูกมองไม่ต่างไปจากผู้รุกราน แล้วก็ผู้ทำลายดีๆนี่เอง

ด้วยเหตุนี้บางครั้งก็อาจจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าAvatar:The Way of Water เป็นอีกหนึ่งหนังที่สุดยอดที่สุดในรอบปีนี้ เยี่ยมเกือบจะทุกๆด้านของหนังที่ร้อยเรียงออกมา เป็นการกลับมาที่คุ้มค่ากับการรอ อีกทั้งยังเป็นผลกำไรให้กับผู้ชมเป็นอย่างดี ที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์ดูหนังที่อิ่มเอมใจไปตลอดทั้ง 3 ชั่วโมงเต็ม เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ ก็คงจะเต็มไปด้วยความประทับใจ พร้อมทั้งฉุกคิดขึ้นได้ว่า น้ำ กับ เจมส์ คาเมรอน ช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่จะมาอยู่คู่กันอีกจริงๆ

แล้วก็ที่สำคัญมากๆ หนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การดูบนจอยักษ์ไอแม็กซ์เป็นที่สุด!

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Avatar:The Way of Water

ประเภท : แอคชั่น / ผจญภัย / แฟนตาซี
ผู้กำกับ : เจมส์ คาเมรอน
นำแสดงโดย : แซม เวิร์ธธิงตัน, โซอี ซัลดานา, ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์
ความยาว : 192 นาที
ระบุฉายในไทย : 14 ธ.ค. 2022 (ในโรงภาพยนตร์)